ตรวจเลือดก่อนผ่าตัดสำคัญไฉน น้องมันนี่มีคำตอบ..?

ประวัติและข้อมูลสัตว์ป่วย

สุนัขชื่อมันนี่ พันธุ์ชิสุห์ อายุ 2 ปี เพศผู้ มาด้วยอาการแผลผ่าตัดทำหมันบวมช้ำและมีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา ซึม และไม่ยอมกินอาหารเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน น้องมันนี่ได้ไปทำหมันมาจากคลินิกแห่งหนึ่งมา  ซึ่งก่อนทำหมันนั้นเจ้าของเล่าว่า ไม่ได้มีการตรวจเลือดแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเป็นแค่การทำหมันสุนัขตัวผู้เท่านั้น

การตรวจร่างกายและการวินิจฉัย

จากการตรวจร่างกายพบว่าน้องมันนี่ซึม อ่อนแรงลง แผลผ่าตัดทำหมันมีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา ที่อัณฑะมีลักษณะบวมช้ำ มีเลือดขังอยู่ในถุงเป็นจำนวนมาก รอบ ๆ แผลผ่าตัดจะมีรอยช้ำสีม่วงเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่บริเวณเหนือแผลผ่าตัด บริเวณอวัยวะเพศ ลามไปจนถึง 2 ขาหลัง เมื่อจับโดนบริเวณอัณฑะ และแผลผ่าตัด น้องมันแสดงอาการเจ็บปวดมาก เมื่อทำการตรวจเลือดเพิ่มเติม พบว่าสุนัขนี่มีภาวะเลือดจาง เกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติมาก เมื่อตรวจละเอียดด้วยกล้องจุลทรรศน์จึงพบปัญหาติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดชนิด E.canis ร่วมด้วย จากผลเลือดดังกล่าว ซึ่งอาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า น้องมันนี่อาจมีปัญหาเป็นโรคติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดมาตั้งแต่ก่อน ซึ่งเป็นปัจจัยโน้มนำทำให้พบรอยช้ำ เลือดหยุดยาก และมีเลือดออกจากแผลผ่าตัดนั่นเอง ทั้งนี้อาจต้องอาศัยการตรวจเลือดขั้นสูงร่วมด้วย หากรักษาโรคติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดแล้วยังพบอาการฟกช้ำ มีรอยเลือดออกตามผิวหนัง เพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้สุนัขมีปัญหาทางระบบเลือด เช่น การขาดปัจจัยการแข็งตัวของหลอดเลือด การทำงานของตับและไตที่ผิดปกติไป หรือโรคทางภูมิคุ้มกัน

การรักษา

หลังจากการตรวจร่างกายและทราบผลว่าเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือดแล้ว คุณหมอจึงรีบให้การรักษาโดยการให้น้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือด และมีการให้ยารักษาพยาธิเม็ดเลือด ยาบำรุงเลือด ยาลดปวดลดอักเสบร่วมด้วย ส่วนแผลและร้อยช้ำที่มีปัญหา ได้ มีการทำแผลผ่าตัดวันละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการประคบเย็นเพื่อช่วยให้เลือดจากแผลหยุดไหล ลดอาการบวมและความเจ็บปวดในช่วง 3 วันแรกหลังจากผ่าตัด เมื่อให้การรักษาฆ่าเชื้อพยาธิเม็ดเลือดร่วมกับการจัดการบาดแผลที่โรงพยาบาล น้องมันนี่มีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ กินอาหารได้ปกติ แผลไม่มีเลือดไหล และรอยช้ำต่างๆก็ลดลง คุณหมอได้ทำการรักษาน้องมันนี่ประมาณ 2 สัปดาห์ แผลก็หายปกติสามารถกลับบ้านได้ แต่น้องมันนี่ยังคงต้องมีการให้ยารักษาพยาธิเม็ดเลือด และ ตรวจเลือดต่อเนื่องจนกว่าจะปกติ โดยใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือน

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

โรคพยาธิเม็ดเลือดชนิด E.canis นั้น จะมีการติดต่อโดยผ่านเห็บ วิธีการป้องกันโรคที่ติดต่อผ่านพาหะนำโรค คือ การควบคุมจำนวนเห็บหมัดให้มีอยู่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง ซึ่งเห็บทุกระยะสามารถนำโรคได้ ดังนั้นการกำจัดเห็บหมัดจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจนไม่พบระยะใดระยะหนึ่งเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดโรคได้ด้วย ซึ่งแม้ว่าสุนัขจะอยู่ภายในบ้านก็อาจจะไม่ปลอดภัยจากเห็บ เพราะบางครั้งถ้าบริเวณรอบ ๆ บ้านมีสุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่หน้าบ้าน ก็อาจจะนำเห็บมาสู่สุนัขของเราได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดควรจะป้องกันเห็บที่สุนัขของเราจะดีที่สุด ซึ่งการป้องกันจะทำได้ใช้ยาฉีด หรือยาหยอดหลังเพื่อกำจัดปรสิตภายนอกที่สั่งจ่ายจากสัตวแพทย์ที่มีใบประกอบโรค นอกจากนี้ควรนำสุนัขตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก ๆ 3-6 เดือน โดยแจ้งสัตวแพทย์เพิ่มเติมเพื่อตรวจเลือดดูสุขภาพโดยรวม ทั้งนี้หากสุนัขจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่การผ่าตัดขนาดเล็ก เช่น การทำหมัน การตรวจเลือดก่อนผ่าตัดจะสามารถทราบว่าสุนัขมีความพร้อมในการผ่าตัด และเสี่ยงที่จะมีข้อแทรกซ้อนหลังผ่าตัดหรือไม่ เพื่อลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดจาก โรคที่แฝงมาก่อนในร่างกายของสุนัขที่เรารักได้