71454 จำนวนผู้เข้าชม |
ประวัติ
ครอบครัวกระต่าย ชิโระ จี้ และ จูดี้ เลี้ยงด้วยกัน 3 ตัว วันนี้เจ้าของพาทั้งสามมาทีโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาปัญหาผาโรคผิวหนัง โดยแรกเริ่ม ชิโระเริ่มมีปัญหาผิวหนังก่อนเพื่อน เป็นสะเก็ดที่ใบหู จมูก ใต้คาง และเท้า มีอาการคันมาก หลังจากนั้นจูดี้ และจี้เริ่มเป็นตาม มีอาการทางผิวหนังเหมือนกัน
การตรวจร่างกายและการวินิจฉัย
กระต่ายทั้ง 3 ตัวมีสะเก็ดหนาที่ใบหู จมูก ใต้คาง และเท้า ส่องตรวจเชื้อรา โดย Wood’s lamp ไม่พบว่ามีเชื้อราบนร่างกาย เมื่อขูดสะเก็ดผิวหนังไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบไรขี้เรื้อนกระต่าย (Sarcoptes sp.) หลายระยะ ตรวจเซลล์วิทยาพบมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
การรักษาและผลการรักษา:
กระต่ายทั้ง 3 ถูกให้ยาหยดหลัง ซึ่งมีตัวยาสำหรับกำจัดไรและปรสิต ห่างกัน 2 สัปดาห์ ระหว่างนี้ มีการให้ยาปฏิชีวนะ คุมการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ร่วมกับยาบำรุงขนด้วย หลังจากหยดยาไป 2 ครั้ง ผิวหนังของทั้ง 3 ตัวดีขึ้นมาก สะเก็ดหายไปเกือบทั้งหมด ยังคงให้หยดยาต่อเนื่อง จนกว่าจะขูดตรวจไม่พบไรขี้เรื้อน
เกร็ดความรู้:
ขี้เรื้อนกระต่าย เกิดจากไรขี้เรื้อนชนิด Sarcoptes sp. ติดจากสุนัข หรือ Notodectes cati ติดจากแมวก็ได้ ทั้งนี้สามารถติดสู่กระต่ายด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถติดสู่คน ทำให้เกิดการคันได้เช่นกัน การติดต่อจะติดจากการสัมผัสใกล้ชิด ตัวอ่อนที่อยู่บนผิวหนังของตัวเป็นโรคจะเคลื่อนย้ายไปอยู่กับอีกตัว เมื่อตัวอ่อนพัฒนาไปเป็นตัวเต็มวัย จึงชอนไชเข้าไปชั้นผิวหนังเพื่อไปวางไข่ ในระหว่างการชอนไชนี้เองที่จะทำให้สัตว์คันมาก ระยะการเจริญเติบโตจากไข่เป็นตัวเต็มวัยใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
เรื่องและภาพโดย
โดย สพ.ญ. นฎา ธนะมัย
สัตวแพทย์ผู้ทำการตรวจและรักษา