กรรมพันธุ์ก็ทำให้สุนัขเป็นไรขี้เรื้อนเปียกได้

17172 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรรมพันธุ์ก็ทำให้สุนัขเป็นไรขี้เรื้อนเปียกได้

ประวัติการตรวจร่างกาย

สุนัขพันธุ์ปอมเมอร์ราเนียน อายุ 2 ปี เจ้าของพามาที่ คลินิกผิวหนังและภูมิแพ้ จากปัญหาผิวหนังอักเสบ ขนร่วง เป็นสีดำ โดยเฉพาะบริเวณ ขาทั้ง 4 ข้าง ตัวมีกลิ่นเหม็น สุนัขเคยรักษาจากที่คลินิกอื่นมาแล้ว แต่อาการกลับมาเป็นๆหาย ๆ  สุนัขมีอาการผิวหนังอักเสบ ขนร่วงที่บรเวณลำตัว และขาทั้ง 4 ข้าง ตัวมีกลิ่นเหม็น เวลาจับตามตัว จะมีเลือดและน้ำเหลืองออกมา

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ตรวจพบตัวไรขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์ และตรวจพบการติดเชื้อแทรกของแบคทีเรียที่ผิวหนัง

การรักษา

สัตวแพทย์ให้ยาต้านแบคทีเรียผิวหนังแบบฉีด 1 ครั้ง ต่อ 2 สัปดาห์ และให้ยารักษาโรคขี้เรื้อนเปียก (Demodicosis ดีโมเดคโคซิส) แบบเม็ดป้อน 1 เม็ดต่อ 3 เดือน เพื่อฆ่าตัวไรขี้เรื้อนที่ผิวหนังอย่างต่อเนื่อง

สุนัขอาการดีขึ้น ผิวหนังอักเสบยุบลง อาการคันลดลง ขนเริ่มขึ้นกลับมาที่บริเวณหลัง และแนะนำให้มาติดตามการตรวจรักษากับสัตวแพทย์คลินิกผิวหนัง ทุก 1 – 3 เดือน เพื่อให้การรักษาอย่างต่อเนื่อง

คำแนะนำจากคลินิคผิวหนัง

โรคไรขี้เรื้อนที่ผิวหนังเป็นโรคที่เกิดจากพันธุกรรมและความผิดปกติของภูมิคุ้มกันในร่างกายของสุนัข สุนัขควรได้รับการตรวจสุขภาพโดยละเอียดกับสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หากตรวจพบให้ทำการรักษาเพื่อให้การรักษาขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ควรใช้สัตว์ป่วยเป็นพ่อแม่พันธุ์ เนื่องจากเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เจ้าของสัตว์ป่วยไม่ควรซื้อยามาป้อนสัตว์ป่วยเอง อาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ควรพาไปพบสัตวแพทย์คลินิกผิวหนัง และแนะนำให้มาติดตามการตรวจรักษากับสัตวแพทย์คลินิกผิวหนัง อย่างต่อเนื่อง

เรื่องและภาพโดย

น.สพ. จักรพันธุ์ วรรณวงศ์

สัตวแพทย์ผู้ทำการรักษา

สัตวแพทย์คลินิคผิวหนังประจำโรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท


 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้