ทำไมต้องมีคลินิกแมว?
เพราะความต้องการของแมวไม่เหมือนใคร โปรแกรมวัคซีนวัคซีน โรคต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมต่างและธรรมชาติของแมวอีกมากมาย ด้วยรายละเอียดที่แตกต่างกันของสุนัขและแมว ทางโรงพยาบาลจึงมีคุณหมอที่มีประสบการณ์ด้านแมวโดยเฉพาะ ที่เข้าใจแมวเหมียวได้เป็นอย่างดี เพื่อคอยเป็นที่ปรึกษาให้ทั้งผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเลี้ยงแมว หรือเลี้ยงมาแล้วพบเจอปัญหามากมายจากการเลี้ยงแมว ซึ่งขอบอกได้เลยว่าแตกต่างจากสุนัขโดยสิ้นเชิง…ทำไมอย่างนี้ ?ทำไมอย่างนั้น ? ทำไม ? ทำไม? ทำไม? นี่คือคำถามปกติที่ พบได้จากคนที่เพิ่งเคยเลี้ยงแมวครั้งแรก หรือจากเลี้ยงดู แล้วสังเกตใกล้ชิดแล้วเพิ่งพบความแปลกใหม่ หรืออะไรที่แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น ขอบอกไว้เลย นี่แมว ไม่ใช่หมา อย่าเอามาเลี้ยงดูแบบเดียวกัน หลายๆเรื่องเป็นคนละเรื่องเดียวกัน อย่าเพิ่งงงค่ะ ค่อยๆอ่านนะคะ ขอเริ่มจากการทำความรู้จัก ธรรมชาติของแมวเพื่อให้การเลี้ยงแมวเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ
แมวเป็นสัตว์เลือดอุ่น เลี้ยงลูกด้วยนม มีประสาทสัมผัสของหูที่ไวต่อเสียงและจมูกไวต่อกลิ่นต่างๆ แมวสามารถได้ยินเสียงต่างๆที่มนุษย์ไม่ได้ยิน และหนวดของแมวจะทำหน้าที่สัมผัสวัตถุที่อยู่ใกล้ๆแทนการใช้สายตา แมวสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืดเนื่องจากม่านตาของแมวจะปรับขยายเพื่อรับแสงที่เข้ามาได้เวลาแสงมากม่านตาจะหดทำให้มองอะไรได้ชัดเจน เป็นการปรับสายตาตามแสงที่มาตกกระทบ ถ้ากรณีแสงน้อยม่านตาจะขยายตัวทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น แต่เวลาตกใจหรือสนใจ ม่านตาจะขยายมากขึ้นเป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า แมวเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูง เนื่องจากมีน้ำหนักตัวค่อยข้างเบากระดูกขาที่แข็งแรงและกล้ามเนื้อที่มีความยืดหยุ่นดีทำให้แมวสามารถกระโดดได้สูงและไกลกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆนอกจากนี้แมวยังสามารถกระโดดลงจากที่สูงได้อย่างปลอดภัยหรือถ้าตกจากที่สูงก็สามารถกลับตัวกลางอากาศ เอาขาทั้งสี่ลงพื้นได้และใช้หางช่วยในการทรงตัว (คำเตือน : ไม่ควรทดสอบความสามารถนี้โดยการปล่อยแมวจากตึกสูงๆเพื่อทดสอบแมวนี้นะคะ)
ระบบสืบพันธุ์ แมวไทยจะเริ่มโตเป็นสาวคือมีวงรอบการเป็นสัดครั้งแรก เมื่ออายุ 4 เดือนเป็นต้นไป ซึ่งไม่น่าเชื่อ เพราะแมวไทยจะตัวเล็ก แต่เจ้าของจะตกใจว่ามีพฤติกรรมเป็นสัดและสามารถตั้งท้องได้ (แต่ตัวผู้จะช้าหน่อยอาจจะอยู่ที่ 8 เดือนจึงจะเป็นหนุ่ม)สำหรับการตั้งท้องโดยปกติ แมวจะตั้งท้องประมาณ 2 เดือน และมีลูกประมาณ 1 – 5 ตัวต่อครอก ลูกแมวจะลืมตาเมื่ออายุประมาณ 10-14 วัน และจะอย่านมเมื่ออายุประมาณ 2 เดือน แต่แม่บางตัวเลี้ยงจนเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ยังให้ลูกดูดนม เมื่อโตเป็นหนุ่มสาวน้ำหนักตัวเมีย จะอยู่ที่ 2-3 กิโลกรัม ตัวผู้จะมีน้ำหนักโดยประมาณ 3 – 4 กิโลกรัมแต่ถ้าเป็นแมวเทศจะหนักกว่านี้ได้ค่ะ รอบการเป็นสัดแมวตัวเมีย มีทุกเดือน และในขณะที่ให้นมลูกสามารถเป็นสัดและสามารถตั้งท้องได้อีก ถ้าต้องการคุมกำเนิด แนะนำให้ทำหมันนะคะ ไม่แนะนำให้ฉีดยาคุมเพราะทำให้มดลูกเป็นหนอง แม่แมวอาจตายได้ การตอนแมวตัวผู้ เพื่อลดความความก้าวร้าวอันเนื่องมาจากฮอร์โมนเพศผู้และการฉี่พ่นเพื่อบ่งบอกอาณาเขตนั้น ควรทำเมื่ออายุประมาณ 8 เดือนขึ้นไป สำหรับแมวตัวเมียควรทำเมื่ออายุ 6 เดือนจะดีที่สุด หากต้องการผสมพันธุ์ควรให้แม่แมวอายุครบ 1 ปีก่อน หรือเป็นสัดครั้งที่ 2 ทั้งนี้เพื่อให้ลูกแมวที่คลอดออกมามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ สำหรับพ่อพันธุ์ก็ควรอายุ 1 ปีขั้นไปเช่นกัน
3. นิสัยโดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ ชอบทำอะไรตามใจตนเอง และเค้าคิดเสมอว่าตัวเองอยู่เหนือมนุษย์ เพราะแมวเป็นสัตว์ป่าตระกูลเสือ ด้วยนิสัยการเป็นนักล่าสามารถหาอาหารได้เอง ไม่จำเป็นเป็นต้องพึ่งพามนุษย์ และตัวมนุษย์เองก็เคยเป็นเหยื่อของเสือ เพราะฉะนั้น ในสายตาแมว เค้ายังไม่ยอมรับคนเป็นเจ้านาย ทั้งๆที่คนพยายามฝึกแมวให้เชื่อง เปลี่ยนพฤติกรรม แต่ก็ยังเปลี่ยนไม่ได้ 100 % ดังนั้น อย่าคาดหวังความจงรักภักดีจากแมว อย่าคาดหวังความไว้เนื้อเชื่อใจจากแมว อย่าคาดหวังการเคารพกฎเกณฑ์จากแมว เพราะคุณจะผิดหวังแน่นอนเวลาแมวเรียกร้องอยากได้อะไร ก็มาร้องเหมียว เหมียว บอก แมวมีประสาทรับความรู้สึกที่ไวกว่าสุนัขมาก รู้ว่าใครชอบแมว หรือไม่ชอบแมว แมวจะรักตอบสนองด้วยความรักต่อคนที่รักเค้าเท่านั้น ใครที่ทำเย่อหยิ่งใส่ก่อนอย่าได้หวังว่าเค้าจะง้อ แม้ว่าแมวอาจจะหยิ่ง ไม่ตามติดเจ้าของเหมือนสุนัขไม่คอยมานั่งเฝ้าคุณอยู่ตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยเชื่อฟังอีก
แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่จดจำเจ้าของมันได้ แต่จะไม่ติดเจ้าของเหมือนกับสุนัข จดจำบ้านของตัวเองได้แต่ชอบออกไปเที่ยวไม่อยู่เฝ้าบ้านของตัวเองเลยดูเหมือนจะฝากบ้านไว้กับ เจ้าเหมียวไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วแมวจะผูกพันกับถิ่นที่อยู่ของมันมาก มีความรู้สึกเป็นเจ้าถิ่นเหมือน ๆ กับสุนัขนั่นแหละค่ะ จะต่อสู้ผู้บุกรุกเพื่อปกป้องถิ่นที่อยู่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถอีกด้วย
แมวจะมีวิธีการแสดงความเป็นเจ้าถิ่นด้วยการปล่อยกลิ่นเฉพาะตัวละลายปนออกมากับปัสสาวะนั่นเองค่ะ แล้วก็จะฉีดพ่นให้ติดกับฝาผนัง กำแพง พุ่มไม้ รั้วบ้าน เป็นต้น จะเป็นปัสสาวะที่ฉีดพ่นออกมาเป็นฝอยมีปริมาณเพียงน้อยนิดเท่านั้นค่ะ แต่มีกลิ่นฉุนมาก ๆ กลิ่นจะอยู่ได้ถึงสองอาทิตย์เลย เรามักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ นะคะว่าแมวมักจะชอบข่วนตามพื้นไม้กระดาน ต้นไม้ กระดาษหนา ๆ หรือว่าโซฟาแพง ๆ เหตุผลที่หนึ่งก็คือต้องการลับเล็บให้คมอยู่เสมอ และเหตุผลที่สองก็คือ เพื่อประกาศบอกให้แมวตัวอื่นที่ผ่านมาเห็นรู้ว่าที่ตรงนี้มีเจ้าของแล้วนั่น แหละค่ะ นอกจากรอยข่วนที่ปรากฎนั้นอุ้งเท้าของแมวยังมีต่อมเหงื่อที่จะให้กลิ่นตัว แมวติดออกมากับรอยข่วนด้วย ถ้าโซฟาเกิดมีรอยข่วนแล้วล่ะก็อย่าได้โกรธไปเลย แมวก็คงอยากจะเป็นเจ้าของเช่นกัน จุดที่แมวมีต่อมสร้างกลิ่นตัว คือ หัว คาง และโคนหาง เช่น เวลาที่แมวคลอเคลียกับแข้งขาเรา ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ นั่นแหละ แมวกำลังประกาศความเป็นเจ้าของอยู่ หาใช่รักเราไม่…..แต่ถ้าคุณทำให้แมวรักคุณแล้ว เรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับมันได้อย่างถูกต้องเจ้าเหมียวตัวนั้นจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูเลยค่ะ ดังนั้นถ้าอยากให้แมวรักคุณ คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของแมว ยอมรับในสิ่งที่แมวเป็น ก็ต้องยอมเอาอกเอาใจกันหน่อย ต้องรู้ใจมันก่อนว่า แมวชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แมวแต่ละตัวมีนิสัยไม่เหมือนกัน อย่าลืมนะคะ แมวก็มีความหลากหลายทางอารมณ์ มีหลายบุคลิก การเข้าหาแต่ละตัว การเลี้ยงเอาใจแต่ละตัวก็ไม่เหมือนกัน แต่อย่าตามใจมากนะคะ เดี๋ยวจะเสียแมวหมด
4. แมวเป็นสัตว์ที่ต้องการสารอาหารหลายอย่างที่มีเฉพาะในอาหารของแมว จำไว้ว่า แมวนั้นไม่ใช่สุนัขตัวเล็ก ๆ ที่จะกินอาหารสุนัขในปริมาณน้อย ๆ ได้ ข้อแตกต่างอย่างแรกระหว่างแมวกับสุนัข คือแมวเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหาร มีความต้องการอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อเป็นสำคัญ ส่วนสุนัขเป็นสัตว์ที่กินได้ทุกอย่างที่เป็นอาหาร มีความสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ไม่ว่าจะกินอาหารประเภทเนื้อหรือพืชผักต่าง ๆ และสารอาหารที่จำเป็นสำหรับแมวหาได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น ส่วนอาหารสุนัขมีส่วนประกอบที่เป็นเมล็ดข้าวเป็นส่วนใหญ่และจะขาดแคลนสารอาหารบางอย่างที่จำเป็นกับแมว จึงมักพบแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ตาฝ้าฟาง ระบบหายใจ และตา เนื่องจากถูกเลี้ยงมาด้วยอาหารสุนัขเป็นประจำ
สรุปคือการที่จะเริ่มเลี้ยงแมวสักตัว เราควรจะศึกษานิสัยโดยธรรมชาติของแมวก่อนเพื่อที่จะเลี้ยงดูให้มันมีความเป็นอยู่โดยธรรมชาติแห่งตัวของมันเองทุกสิ่งเมื่อได้ดำเนินไปตามธรรมชาติ เมื่อรู้ซึ้งแล้วจะได้ไม่กลายเป็นทาสแมว จะได้ไม่เลี้ยงดูแบบผิดๆและจะทำให้เกิดความสุขทั้งแมวและคุณค่ะ