10038 Views |
ประวัติสัตว์ป่วย
ชื่อสัตว์ : ทอง สายพันธุ์ :
แมว อายุ : 5 ปี เพศ : เมีย
สี : ลาย-น้ำตาลส้ม ชื่อเจ้าของ : คุณ วรรณภา น้อยประชา
เจ้าของได้เล่าเหตุการณ์ให้คุณหมอฟังว่า
ในขณะที่เจ้าของกำลังเย็บผ้าอยู่
เจ้าของเห็นแมวเล่นด้ายไหมที่ร้อยเข็มเย็บผ้า เล่นไปเล่นมา
แมวเอาด้ายฝั่งหนึ่งเข้าปากแล้วค่อยๆ กลืนจนเข็มหายเข้าไปในลำคอ
หลังจากนั้น แมวแสดงอาการขย้อนไม่สบายคอตลอดเวลา
แนวทางการวินิจฉัยเนื่องจากผมไม่แน่ใจว่า แมวจะกินเข็มลงไปจริงๆ รึเปล่า
เพราะไม่น่าจะเป็นพฤติกรรมปกติของแมวที่จะกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป
และตอนที่แมวพามาถึงโรงพยาบาล ด้วยอาการตื่นกลัวของแมวเอง
ทำให้แมวไม่แสดงอาการขย้อนหรือไอให้เห็นนัก
นอกจากนี้ยังไม่พบสิ่งใดที่ชัดเจนจากการตรวจร่างกายมากนัก อย่างไรก็ดี
เมื่อลองถ่ายภาพรังสี (x-ray)
พบว่ามีวัตถุแปลกปลอมชนิดโลหะมีลักษณะคล้ายเข็มเย็บภาพปรากฏขึ้นภายในหลอด
อาหารของแมว
ทางเลือกในการรักษา
เนื่องจากสิ่งแปลกปลอมในทางเดินอาหาร
สามารถเจอได้ตั้งแต่ทางเดินอาหารส่วนต้น (ปาก, คอหอย, หลอดอาหาร) ไปจนถึง
กระเพาะอาหาร ลำไส้ส่วนต้น ส่วนกลาง ส่วนท้าย และลำไส้ตรง
ตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ต่างกัน
ย่อมต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
ตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมออกได้ง่าย ได้แต่ กระเพาะอาหาร และ
ลำไส้ เพราะเป็นอวัยวะที่เข้าถึงได้ง่าย มีขนาดใหญ่ และอยู่ในช่องท้อง
การที่สิ่งแปลกปลอมอยู่ในหลอดอาหาร เป็นปัญหาที่ค่อนข้างลำบาก เพราะ
หลอดอาหารอยู่ในตำแหน่งของคอและช่องอก หากต้องเปิดผ่าตัด
อาจต้องมีเครื่องช่วยหายใจเพื่อคงสภาพการทำงานของปอดในระหว่างผ่าตัด
นอกจากนี้หลอดอาหารเองก็มีกล้ามเนื้อเรียบลักษณะพิเศษที่ค่อยบีบไล่อาหารจาก
คอหอยไปยังกระเพาะอาหาร
การกรีดผ่าหลอดอาหารจึงสามารถพบผลข้างเคียงของกล้ามเนื้อเรียบตรงนี้ได้ง่าย
ไม่ว่าจะเป็นหลอดอาหารตีบ กล้ามเนื้อหย่อนยานจนเสียรูปทรง
ผนังของหลอดอาหารเกิดเป็นพังผืดทำให้ไม่สามารถบีบไล่อาหารได้อย่างปกติ วิธี
ที่อาจได้ผลดีอีกวิธีคือการคีบออกจากทางปาก
ซึ่งสามารถทำได้โดยการส่องกล้องขนาดเล็กเข้าสู่หลอดอาหาร(endoscope)
ซึ่งอุปกรณ์ชุดนี้จะมีปากคีบขนาดเล็กคู่มากับตัวกล้อง
สามารถใช้แทนมือเข้าไปหยิบคีบออกมาได้ง่าย ข้อเสียของวิธีนี้คือ
อุปกรณ์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายและมีราคาแพง
ทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวจะมีให้เห็นอยู่แค่โรงพยาบาลสัตว์ของมหาวิทยาลัยเป็น
ส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องรอคิวรักษาในระยะเวลานาน
และค่าใช้จ่ายในการรักษาก็มีราคาแพงมากเช่นกัน
นอกจากนี้อุปกรณ์นี้จำเป็นต้องใช้สัตวแพทย์ผู้ชำนาญอุปกรณ์ในการใช้ด้วย
แผนการรักษาต่อไป
เมื่อนำสิ่งแปลกปลอมออก ก็รอให้แมวฟื้นจากการสลบ
ซึ่งแมวก็ฟื้นได้ดี สิ่งที่ผมมองไม่เห็นคือ
ภายในผนังหลอดอาหารอาจมีบาลแผลหรือรอยถลอกที่เกิดขึ้นจากตัวเข็ม
ผมจึงจ่ายยาเคลือบกระเพาะและยาฆ่าเชื้อให้เจ้าของไปป้อนยาต่อที่บ้านและ
หมั่นสังเกตอาหาร โดยเฉพาะอาการสำรอกอาหารและอาเจียน ต่อไป
นับเป็นโขคดีมากๆ ทั้งสำหรับ “ทอง” และ ตัวผมเอง ที่สามารถนำสิ่งแปลกปลอมออกได้ โดยที่ “ทอง”ไม่ต้องไปรักษาโดยการผ่าตัดใหญ่
สำหรับตัวของทองเอง
เข็มอยู่ลึกลงไปจากคอหอยประมาณ 4-5 ซม. นอกจากนี้
หากต้องปล่อยให้เข็มคาไว้ที่หลอดอาหารนานเกินไป
อาจจะยิ่งทำให้หลอดอาหารเกิดภาวะอักเสบ จุดเลือดออก เป็นแผล มากขึ้น
หากแมวมีการขย้อนมากขึ้นผมจึงคิดว่า
อาจจะลองเริ่มต้นจากการวางยาให้แมวสลบก่อน แล้วลองใช้ปากคีบหลอดเลือดแดง
(artery forceps) คีบดูโดยที่ไม่สามารถมองเห็นได้ (blind technique)
ถือเป็นการรักษาที่มีความท้าทายมาก
จึงเปิดเส้นให้น้ำเกลือ วางยาสลบและสอดท่อช่วยหายใจกับทอง
ให้ลึกเพียงพอที่จะสามารถอ้าปากและสอดปากคีบลงคอได้ ทั้งนี้
ผมได้ใช้อุปกรณ์วางยาแบบดมยาสลบ ให้ออกซิเจน และให้สารน้ำควบคู่ไปด้วย
เพื่อความปลอดภัยแก่ตัวแมว ท่อช่วยหายใจมีข้อดีอีก 1 อย่าง คือ
ช่วยทำให้การสอดปากคีบไม่ลงไปในหลอดลมของแมว เมื่อทุกอย่างพร้อม
จึงจับแมวตั้งคอขึ้น นำปากคีบสอดเข้าไปเพื่อคีบเอาเข็มออก
ผมและสัตวแพทย์อีกหนึ่งท่านใช้ความพยายามอยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมง
ก็สามารถคีบปลายด้ายที่ผู้ติดกับเข็มออกมาที่ลำคอของแมว
ทำให้สามารถคีบเข็มออกมาจากหลอดอาหารของแมวได้ในที่สุด